อะคูสติก มีผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีในออฟฟิศอย่างไร?
งานวิจัยพบว่า ความเป็นอยู่ที่ดีในออฟฟิศ คือหนึ่งในเทรนด์กที่มนุษย์เงินเดือนหลาก Gen ยุค Post-COVID ต้องการและแสวงหา และแน่นอนว่า การปรับออฟฟิศให้ได้มาตรฐานความเป็นอยู่ที่นั้นมีหลายด้าน ในที่นี้เรามาดูด้านของอะคูสติกกัน
เป็นที่รู้กันอยู่แล้ว่า สภาพแวดล้อมทางเสียงมีผลต่อสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดีต่อผู้อยู่อาศัย ทั้งด้านดีเช่น ความมีสมาธิ ความผ่อนคลาย การป้องกันปัญหาในการประชุม อบรม สัมมนา ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ฯลฯ เหล่านี้เกิดจากสภาพแวดล้อมทางเสียงที่ดี เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความสุข และเป็นสิ่งที่สามารถทำให้การทำงานของพนักงานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ส่วนทางด้านไม่ดี เช่น สร้างความรำคาญ ความเครียด ความหงุดหงิด ความฉุนเฉียว ตลอดจนปัญหาในการประชุม อบรม สัมมนา ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ฯล เหล่านี้เกิดจากสภาพแวดล้อมทางเสียงที่ไม่ดี ไม่ดีต่อการอยู่อาศัย และส่งผลให้การทำงานของพนักงานมีประสิทธิภาพลดลง
อะคูสติก กับสร้างสภาพแวดล้อมทางเสียงที่ดีในสำนักงาน
เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการให้เกิดความเป็นอยู่ที่ดีด้านอะคูสติกในออฟฟิศได้ย่างมีรูปธรรม เรามาดูค่ามาตรฐาน WELL V2 กัน
โดย Well Building ได้กำหนดมาตรฐานของอาคารอยู่อาศัยที่ดีไว้ในข้อกำหนดชื่อ WELL V2 เพื่อทำให้ผู้อยู่อาศัยภายในอาคารได้รับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และเพื่อสุขอนามัยในการอยู่อาศัยที่ดี โดยด้านอะคูสติกคือหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญ ที่มาตรฐาน Well Building ได้กำหนดเอาไว้ มีดังนี้
ค่าความก้องภายในพื้นที่ (Reverberation Time)
ค่าความก้องสะท้อนภายในพื้นที่ หรือที่นิยมเรียกกันว่า RT-60 มีความสำคัญมาก เพราะสภาพแวดล้อมทางอะคูสติกตัวนี้ จะมีผลสู่ความชัดเจนของเสียงพูดและการติดต่อสื่อสารกัน หรือที่เรียกว่า STI และอื่นๆ อีกหลายอย่าง การมีค่าความก้องสะท้อนที่เหมาะสม จะทำให้คนที่อยู่อาศัยมีความรู้สึกสบาย เพราะจะช่วยให้การพูดคุยสื่อสารง่าย ชัดเจน และสบายๆ ไม่ก่อให้เกิดความเครียด ความหงุดหงิด ความรำคาญ เป็นต้น Well Building ได้กำหนดค่า RT-60 โดยแบ่งตามประเภทของพื้นที่ เช่น พื้นที่ทำงาน พื้นที่ประชุม อบรมสัมมนา พื้นที่ทานอาหาร และพื้นที่ออกกำลังกาย ฯลฯ
ค่าระดับเสียงรบกวนพื้นฐาน (Background Noise Level)
เสียงรบกวนพื้นฐานเกิดขึ้นได้จากทั้งปัจจัยภายในของอาคาร เช่น ระบบปรับอากาศ ระบบลีฟท์และบันไดเลื่อน ระบบบำบัดและระบายน้ำ ฯล และปัจจัยจากภายนอกอาคาร เช่น จากล้อรถไฟฟ้า จากรถที่วิ่งบนถนน จากเครื่องจักรที่ทำงาน หรือจากกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นภายในอาคาร ฯล เหล่านี้ Well Building ได้กำหนดให้ในทุกพื้นที่ภายในอาคารจะต้องมีเสียงรบกวนพื้นฐานไม่เนค่าที่กำหนดไว้ เพราะเมื่อค่าระดับเสียงเหล่านี้ทั้งหมดเกิดกว่าระดับที่เหมาะสม จะทำให้ผู้อยู่อาศัยเกิดความรู้สึกไม่สบาย (Exceed comfortable levels) ทำให้อาคารไม่เหมาะสมต่อการอยู่อาศัยที่ดี Well Building ได้กำหนดค่าระดับเสียงรบกวนพื้นฐาน โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ หรือ Category ต่างๆไว้ เช่น พื้นที่การประชุม การเรียนการสอน และการบรรยาย พื้นที่เปิดซึ่งต้องการใช้สมาธิ พื้นที่ที่มีการใช้ระบบเครื่องขยายเสียง พื้นที่สำหรับการรับประทานอาหาร พื้นที่สำหรับการทำงานของเครื่องจักร เป็นต้น
ค่าการป้องกันเสียงทะลุผ่าน (Sound insulation)
ค่าอะคูสติกในการส่งผ่านเสียงทั้งจากผนังและประตูนั้น กำหนดไว้เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันเสียงทะลุผ่านได้อย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสาเหตุของเสียงรบกวนกันระหว่างพื้นที่ใช้งานที่อยู่ติดกัน และสร้างความเป็นส่วนตัวของแต่ละพื้นที่ให้เหมาะสม เนื่องจากหากผนังและประตูไม่มีการป้องกันเสียงทะลุผ่านได้ดีเพียงพอ จะทำให้เสียงทะลุผ่านจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้มากกว่ามาตรฐาน อันส่งผลความไม่มีสุขภาวะในการอยู่อาศัยที่ดีนั้นเอง Well Building จึงได้กำหนดค่ามาตรฐานดัชนีความแตกต่างของระดับเสียงระหว่างพื้นที่ต่างๆ เช่น ระหว่างพื้นที่ที่ต้องการสมาธิกับพื้นที่ทำงานทั่วไป ระหว่างพื้นที่ทางเดินกับพื้นที่ทำงาน ระหว่างพื้นที่ทำงานกับพื้นที่ห้องประชุม พื้นที่ทำงานที่มีเสียงดังกับพื้นที่ทำงานปรกติ เป็นต้น
สรุป อะคูสติกมีผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีในออฟฟิศ โดยสถาบัน Well Building ได้กำหนดค่าหลักทางอะคูสติกไว้ในมาตรฐาน WELL V2 ไว้ 3 คือ ค่าความก้องภายในพื้นที่ ค่าระดับเสียงรบกวนพื้นฐาน และค่าการป้องกันเสียงทะลุผ่าน
สนใจปรับปรุงออฟฟิศ, สำนักงาน, ห้องประชุม, อบรม สัมมนา ห้องจัดเลี้ยง
- ติดต่อบริษัท แอ็ดว้านซ์ เทคโนโลยี คอนแทรคติ้ง จำกัด
- โทร 064 932 5163
- E-mail: marketing@atc.co.th
Cr. ขอบคุณข้อมูล