Resources

สารบัญ
ขั้นตอนการวางแผนปรับปรุงสำนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ หน้า 1
การประเมินความต้องการและเป้าหมายของการปรับปรุงสำนักงาน หน้า 1
การวางแผนงบประมาณอย่างชาญฉลาด หน้า 1
การออกแบบวางฝังเพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน หน้า 2
การเลือกใช้เทคโนโลยีในออฟฟิศอย่างมีประสิทธิภาพ หน้า 3
การดูแลด้านสภาพแวดล้อมในออฟฟิศ หน้า 4
รับฟังความคิดเห็นจากพนักงาน หน้า 4
ขั้นตอนการวางแผนปรับปรุงสำนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ
การปรับปรุงสำนักงานหรือออฟฟิศ เป็นเรื่องที่ทุกองค์กรต้องพิจารณาในบางช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นการขยายพื้นที่เพื่อรองรับจำนวนพนักงานที่เพิ่มขึ้น การปรับปรุงบรรยากาศเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงาน หรือการทำให้สำนักงานดูทันสมัยและเข้ากับภาพลักษณ์ขององค์กร
Credit: https://avl.co.th/
การวางแผนปรับปรุงสำนักงานอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะช่วยให้การปรับปรุงดำเนินไปอย่างราบรื่น และเกิดผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการทั้งนี้มีขั้นตอนหลักของการวางแผนปรับปรุงสำนักงานดังนี้
1. การประเมินความต้องการและเป้าหมายของการปรับปรุงสำนักงาน
ขั้นแรกของการวางแผนปรับปรุงสำนักงานคือการประเมินความต้องการขององค์กร โดยคำนึงถึงปัจจัยหลายประการที่จะช่วยกำหนดทิศทางการปรับปรุงและเป้าหมายที่ต้องการ
1.1 วิเคราะห์วัตถุประสงค์การปรับปรุง
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน : คุณอาจปรับปรุงสำนักงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยการจัดสรรพื้นที่ใหม่ให้เหมาะสมกับการทำงานของทีมต่าง ๆ
รองรับการขยายตัวขององค์กร : หากองค์กรกำลังเติบโต สำนักงานอาจต้องขยายพื้นที่หรือปรับปรุงเพื่อรองรับพนักงานที่เพิ่มขึ้น
ปรับปรุงภาพลักษณ์ของบริษัท : การปรับปรุงสำนักงานให้ทันสมัยและสะท้อนความเป็นมืออาชีพช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าและพนักงาน
1.2 ประเมินพื้นที่และโครงสร้างปัจจุบัน
ประเมินพื้นที่ใช้สอย: ตรวจสอบพื้นที่ปัจจุบันว่ามีการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ บางครั้งการจัดพื้นที่ใหม่อาจทำให้พื้นที่ขนาดเล็กสามารถใช้งานได้ดีขึ้น
พิจารณาโครงสร้างอาคาร: ตรวจสอบสภาพโครงสร้างพื้นฐานของสำนักงาน เช่น ระบบไฟฟ้า, ระบบระบายอากาศ, หรือระบบประปา เพื่อดูว่ามีส่วนไหนที่ต้องซ่อมแซมหรือปรับปรุง
2. การวางแผนงบประมาณอย่างชาญฉลาด
เมื่อคุณทราบถึงเป้าหมายและความต้องการของการปรับปรุงแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการวางแผนงบประมาณเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นโดยการจัดสรรงบประมาณที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี
2.1 กำหนดงบประมาณเบื้องต้น
ค่าออกแบบและการก่อสร้าง : งบประมาณส่วนใหญ่จะเป็นค่าออกแบบภายในและการก่อสร้าง เช่น การทุบผนัง, การติดตั้งวัสดุใหม่ หรือการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน
ค่าวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ : วัสดุตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง เช่น ผนัง, พื้น, โต๊ะ, และเก้าอี้ เลือกวัสดุที่ทนทานและมีคุณภาพเพื่อให้ใช้งานได้ยาวนาน
ค่าติดตั้งระบบเทคโนโลยี : ค่าติดตั้งระบบไฟฟ้า, ระบบเสียง, และอุปกรณ์เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น ระบบอินเทอร์เน็ตและเครือข่ายในสำนักงาน
2.2 เผื่อค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
การปรับปรุงสำนักงานมักมีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เช่น การซ่อมแซมระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เก่าหรือค่าแรงงานเพิ่มเติม จึงควรเผื่องบประมาณไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน
3. การออกแบบวางผังเพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน
การออกแบบสำนักงานควรคำนึงถึงการทำงานของพนักงานเป็นหลัก โดยการจัดวางพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จะส่งเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Credit: https://avl.co.th/
3.1 การจัดสรรพื้นที่และการจัดที่นั่ง
จัดโซนการทำงานให้เหมาะสม: แบ่งพื้นที่ตามประเภทของการทำงาน เช่น โซนทำงานเงียบ โซนสำหรับการทำงานร่วมกัน หรือห้องประชุม
การจัดที่นั่งตามทีมงาน: พิจารณาว่าจะจัดที่นั่งให้กับพนักงานอย่างไรเพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะงาน เช่น การจัดที่นั่งแบบเปิด (open space) หรือแบบปิด (private space)
3.2 การเลือกวัสดุและเฟอร์นิเจอร์
Credit: https://avl.co.th/
วัสดุที่ใช้งานได้ทนทานและง่ายต่อการดูแล : เลือกวัสดุสำหรับพื้นและผนังที่ทนต่อการใช้งานหนัก และง่ายต่อการดูแลรักษา เช่น พื้นไวนิลหรือกระเบื้องยางที่ทำความสะอาดง่าย
เฟอร์นิเจอร์ที่รองรับการทำงาน : ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาให้รองรับการทำงานในระยะยาว เช่น เก้าอี้ที่ปรับระดับได้ หรือโต๊ะที่มีฟังก์ชันการเก็บสายไฟและอุปกรณ์เทคโนโลยี
4. การเลือกใช้เทคโนโลยีในออฟฟิศอย่างมีประสิทธิภาพ
สำนักงานที่ทันสมัยต้องมีเทคโนโลยีที่รองรับการทำงานของพนักงานและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เช่น การติดตั้งอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อได้ง่ายและการจัดการระบบเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
Credit: https://avl.co.th/
4.1 ระบบเครือข่ายและอินเทอร์เน็ต
ระบบเครือข่ายที่ครอบคลุม: การออกแบบระบบเครือข่ายที่ดีจะช่วยให้พนักงานสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและทำงานได้อย่างรวดเร็ว ทั้งแบบใช้สายและไร้สาย
การติดตั้งจุดเชื่อมต่อที่เพียงพอ: วางแผนการติดตั้งพอร์ตอินเทอร์เน็ตและจุดปลั๊กไฟในพื้นที่ต่าง ๆ ของออฟฟิศเพื่อความสะดวกในการใช้งาน
.
4.2 อุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัย
การติดตั้งระบบจอภาพและเสียง: ห้องประชุมควรติดตั้งจอภาพและเสียงที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้งานร่วมกับระบบประชุมทางไกลหรือการนำเสนอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การติดตั้งวิดีโอคอนเฟอเรนซ์: สำหรับการประชุมที่มีความสำคัญ การติดตั้งระบบเสียงและกล้องคุณภาพสูงและรองรับเพลทฟอร์มการประชุมต่างๆ จะช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่น
5. การดูแลด้านสภาพแวดล้อมในออฟฟิศ
การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในออฟฟิศเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน การออกแบบที่ดีควรคำนึงถึงสภาพแวดล้อมทางกายภาพ เช่น ระบบแสงสว่าง อากาศ น้ำ และเสียงรบกวน เพื่อให้พนักงานมีสุขภาวะที่ดี อันเป็นผลต่อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Credit: https://www.wellcertified.com/certification/v2/
5.1 ระบบแสงสว่างที่เหมาะสม
การใช้แสงธรรมชาติ: สำนักงานที่มีแสงธรรมชาติเข้าถึงจะช่วยเพิ่มพลังงานและสมาธิให้กับพนักงาน
การใช้แสงสังเคราะห์: ติดตั้งหลอดไฟที่มีความสว่างเพียงพอและมีการควบคุมแสงให้เหมาะสมกับกิจกรรมต่าง ๆ ในออฟฟิศ เช่น การประชุม การทำงานเอกสาร หรือการพักผ่อน
5.2 การจัดการระบบระบายอากาศและอุณหภูมิ
ระบบระบายอากาศที่ดี: การระบายอากาศที่เหมาะสมจะช่วยให้พนักงานรู้สึกสบายและลดปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
การควบคุมอุณหภูมิ: การตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับพนักงานในการทำงาน
6. รับฟังความคิดเห็นจากพนักงาน
สอบถามความพึงพอใจ: การขอความคิดเห็นจากพนักงานที่ใช้ออฟฟิศจริงจะช่วยให้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และความต้องการของพนักงานการปรับปรุงสำนักงานที่มีประสิทธิภาพนั้น จะช่วยส่งเสริมการทำงานและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับพนักงาน อันเป็นส่วนหนึ่งของความมีประสิทธิภาพขององค์กร
สนใจรูปแบบและงบประมาณ ในการปรับปรุงสำนักงาน
ติดต่อขอข้อมูลได้ที่
https://atc.co.th/contact-us/